วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

มุ่งสู่ความสำเร็จ

มุ่งสู่ความสำเร็จ  
คนเราต่างใฝ่หาความสำเร็จด้วยกันแทบทั้งนั้น แต่อะไรคือความสำเร็จที่แท้จริงที่ทุกคนควรคำนึงถึง บทความนี้ขอนำเสนอนิยามของคำว่า "ความสำเร็จ" ในอีกแง่มุมหนึ่งที่ผนวกเอาความสำเร็จทางด้านวัตถุและความสุขกายสบายใจเข้าไว้ด้วยกัน ความสำเร็จดังกล่าวมีด้วยกัน 4 มิติ ดังต่อไปนี้ 

1. ความสำเร็จคือ ความภาคภูมิใจที่ตนเองเป็นคนที่มีคุณค่าต่อสังคม องค์กร ลูกค้า และเพื่อนร่วมงาน
              1) มีคุณค่าต่อสังคมในที่นี้คือ ความภูมิใจที่ได้ทำงานที่สุจริต ไม่โกงกิน ไม่เอาเปรียบ ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน มีน้ำใจช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า รู้จักทำประโยชน์ให้แก่สังคม เป็นคนมีมารยาท รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เคารพกฎหมาย เคารพกฎจราจร เคารพกฎสังคม และมีสัมมาคารวะต่อผู้หลักผู้ใหญ่
              2) มีคุณค่าต่อองค์กร เราจะต้องพูดได้อย่างเต็มปากว่า เราเป็นพนักงานที่ดีขององค์กร    มีผลงาน ทำงานเกินเงินเดือน และมีส่วนในการช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่เพื่อพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น
              3) มีคุณค่าในสายตาของลูกค้า ในที่นี้คือ เราสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ ลูกค้ารักเรา จดจำเราได้ ซื้อหรือรับบริการจากเราอย่างสม่ำเสมอ และอยากจะแนะนำให้คนอื่นมาซื้อสินค้าจากเราด้วย
              4) มีคุณค่าในมุมมองของเพื่อนพนักงาน ใครเห็นก็อยากจะทำงานด้วย เราเป็นคนที่ไม่มีปัญหา สามารถทำงานกับใครก็ได้ มีความรับผิดชอบ มีความตรงไปตรงมา ไม่เล่นพรรคเล่นพวก   และเป็นคนเน้นหนักเรื่องงานมากกว่าจะชอบเอาเวลาไปคุยนินทาหรือทำเรื่องส่วนตัว
2. ความสำเร็จคือ ความสามารถที่จะสานฝันให้เป็นจริง ทุกๆ เช้าเราจะต้องรู้สึกว่าภาพแห่งฝันเริ่มเข้าใกล้ความเป็นจริงเข้าไปทุกทีสิ่งนี้จะทำให้เรามีพลังชีวิตเพราะเรามีเป้าหมาย เราไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์ไปวันหนึ่งๆ ความ ฝันของเราไม่จำเป็นต้องเหมือนใครแต่มันเป็นสิ่งที่ในใจลึกๆ ของเราอยากจะทำและมันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้
3. ความสำเร็จคือ การมีครอบครัวที่อบอุ่น มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่และผู้มีพระคุณมีน้ำใจ รู้จักดูแลเอาใจใสพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดและอุปถัมภ์เลี้ยงดูเรามา
4. ความสำเร็จคือ จิตใจมีความสงบและมีความสุข มีคุณธรรมและรู้จักปล่อยวางได้มากขึ้น

วิธีการสร้างความสำเร็จในชีวิต
1) หัดสร้างมโนภาพถึงในสิ่งที่เราอยากให้มันเป็นจริง 
    การฝึกสร้างภาพต้องเริ่มจากการหัดสังเกตและจดจ่อ ตั้งใจมอง สนใจในรายละเอียด  และตั้งใจเก็บภาพไว้ในความทรงจำ นอกจากนั้น เราอาจจะเอาภาพที่สื่อถึงเป้าหมายที่เราอยากจะทำ มาติดไว้ในที่ที่เรามองเห็นบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นเตือนความทรงจำและสื่อถึงจิตใต้สำนึกของเรา
2) ตั้งใจฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้าให้คมกริบ
              ฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้าคือทาง ตา หู จมูก ลิ้น และกายสัมผัส เพื่อเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสานฝันให้เป็นจริง สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีความว่องไวทางอารมณ์ รู้ว่าควรทำอะไรและควรพูดอะไร
3) มีการวางแผนและกุศโลบายที่แยบยลละเอียดชัดเจนและมีแผนสำรองไว้เสมอ
              ถึงแม้ว่าการวางแผนจะต้องมีความละเอียดและแยบยล เราก็ไม่ควรจะโลภมากนัก ความโลภจะทำให้จิตใจไม่สงบ จิตจะว้าวุ่นและกลายเป็นความเครียดและปริวิตก จิตใจที่ขุ่นมัวย่อมมองอะไรได้ไม่ชัดเจน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการวางแผนที่ผิดพลาดได้ ฉะนั้น การวางแผนใดๆ ก็ต้องทำพอประมาณและอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรมและความถูกต้อง เมื่อวางแผนแล้วก็ให้ลงมือทำทันที โดยให้ตั้งใจทำอย่างสุดความสามารถก่อนแล้วจึงค่อยปรับเปลี่ยนในกรณีที่มันไม่ได้ผลจริงๆ การฝึกประสาทสัมผัสทั้งห้าให้ชัดเจนจะช่วยให้เรามีสติมีความรู้สึกเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยให้เรารู้ได้ว่าเราควรเดินหน้าต่อหรือควรปรับเปลี่ยนแผนการ
4) มีความบากบั่นพากเพียรจนความฝันกลายเป็นความจริง จงเลือกใส่ใจและเลือกทำในสิ่งที่สำคัญและจำเป็น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่มีสาระเราควรปล่อยผ่านไม่ควรเอามาใส่ใจ
5) มีความรับผิดชอบ ตั้งใจทำงาน มีผลงาน ทำตัวสุภาพเรียบร้อย มีน้ำใจ
6) รักษาสุขภาพให้แข็งแรง กินพอประมาณ กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
          7) มีคุณธรรมประจำใจ มีสติ มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มีศีล มีธรรม มีความเมตตากรุณา  มีน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น และรู้จักปล่อยวาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น